หลายคนน่าจะเคยงงสงสัย ในวันที่ SET Index เขียวปี๋แต่ หุ้นขึ้นยกแผง ยกเว้นตัวที่เราถือ 555 ว่าเป็นเพราะอะไรกันน้า….
บทความนี้ผมเลย อยากแชร์มุมมองของผม ในเรื่องนี้ให้ทุกท่านฟังนะครับ (อันไหนอ้างอิงได้ จะพยายามอ้างอิงนะครับ)
มาเริ่มที่จุดกำเนิดก่อนเลยละกันครับ … ที่จริงแล้ว หุ้นมันไม่ได้กำเนิดจาก SET แต่ SET ต่างหากที่กำเนิดจากหุ้น เพราะ SET พูดแบบหยาบๆ มันก็คือการหาค่าเฉลี่ยแบบหนึ่ง ของหุ้นทุกตัวในตลาด SET แหละครับ ( SET เป็นดัชนีแบบ market capitalization weighted index) ดังนั้น มันอาจจะ Make Sense กว่าด้วยซ้ำ ที่เราจะมองที่หุ้นก่อน แล้วค่อยมามองที่ SET
แต่อย่างไรก็ตาม ตลาดหุ้นไทยและดัชนี SET Index ก็มีความเกี่ยวพันกันซับซ้อนไปๆมาๆ อย่างแยกไม่ออก ดังนั้น ดัชนีก็ส่งผลต่อหุ้นเช่นกัน ยกตัวอย่างง่ายๆเช่น การซื้อขายกองทุน SET50 ไม่ว่าจะเป็นกองทุนทั่วไปหรือ LTF ที่ส่งผลถึงหุ้นหลายตัวในตลาด
หลังจากนี้ผมจะแบ่งมุมมอง+ข้อสังเกต เป็นข้อๆนะครับ (ไม่ใช่ปัจจัยนะครับ)
1. หุ้นที่อยู่ในกลุ่มอุตสาหกรรมที่อ่อนไหวต่อเศรษฐกิจมาก มักจะอ่อนไหวต่อ SET หรือบางที ขยับก่อน SET ด้วยซ้ำ ยกตัวอย่างเช่น หุ้นกลุ่มแบงค์ ค้าปลีก อสังหาริมทรัพย์ … ในทางเศรษฐศาตร์แล้ว ดัชนีตลาดหุ้นถือเป็น สัญญาณนำ ทางเศรษฐกิจตัวหนึ่ง ( Leading Economic Indicator ) ดังนั้นกลุ่มธุรกิจแรกๆที่โดนผลกระทบจากสภาพความรวยจน ความเป็นอยู่ ของประชาชน จะส่งสัญญาณก่อนเลย ลองนึกภาพแบบ ซื้อของน้อยลง คนซื้อผ่อน/กู้แบงค์น้อยลง อะไรประมาณนั้นนะครับ
2. หุ้นที่มีการอ้างอิงกับสินทรัพย์อื่น จะไม่ได้ตอบสนองกับ ดัชนีหุ้น มากขนาดนั้น
ยกตัวอย่างเช่น หุ้นกลุ่มน้ำมัน ถึงแม้ว่าหุ้นกลุ่มนี้ปัจจัยด้านรายได้หลักๆจะมาจาก การเติบโตของเศรษฐกิจก็ตาม แต่ก็จะได้รับอิทธิพลจากราคาน้ำมันที่ถือเป็นต้นทุนหลักมากเช่นกัน ซึ่งถือเป็นต้นทุนที่มีความเหวี่ยงค่อนข้างมาก ตรงนี้ก็จะส่งผลต่อการเคลื่อนไหวของราคาและกำไรเช่นกัน
นอกจากนี้ยังมีหุ้นเหมืองทอง เคยมีบทความทำการทดสอบไว้เลยว่า ราคาเคลื่อนตามราคาทองมากกว่าดัชนีหุ้น
3. กำไรของหุ้น
หุ้นที่กำไรแกร่งมากๆ เช่น โต 15% หลายๆปีติดกัน ถึงแม้หุ้นนั้นจะอยู่ในหมวดที่ sensitive ต่อเศรษฐกิจ แต่หุ้นจะมีแนวโน้มที่จะขึ้นมากกว่าลงเสมอ สิ่งที่ผมพบเจอกับหุ้นที่กำไรแกร่งมากๆ อย่าง เช่น
– ในระยะสั้น แม้มันจะลงตาม SET แต่จังหวะดีดกลับ มันกลับไปไกลกว่ามาก หรือพูดอีกอย่างคือ ลงน้อยกว่า แต่ขึ้นเยอะกว่า ดังนั้น หากมอง timeframe สั้นๆ จะเห็นว่ามันไปด้วยกันกับดัชนี SET แต่ถ้ามอง timeframe ใหญ่ๆ จะเห็นว่ามันสวนกันเลย
– ในบางที หากการลงของ SET ช่วงที่เป็นแค่การ correction ไม่ใช่วิกฤต หุ้นพวกนี้ออกจะสวนขึ้นไปเลยด้วยซ้ำ
ในทางกลับกัน หุ้นที่แนวโน้มกำไรลดลงอย่างต่อเนื่อง เช่นกลุ่มหุ้นที่ไม่สามารถปรับตัวกับเทคโนโลยีหรือสถาพปัจจุบันได้ กลุ่มนี้ แม้ในช่วงเวลาที่ SET ขึ้น ราคาหุ้นก็จะยังลงต่อเนื่อง
4. ประเภทของหุ้น ตามลักษณะธุรกิจและขนาด
หุ้นสามารถแบ่งได้หลายมุมมอง บางทีเราสามารถเอาประเภทหุ้นที่คนแบ่งไว้อยู่แล้ว มาพิจารณาได้ เช่น หุ้นกลุ่ม defensive …อธิบายแบบหยาบๆ คือหุ้นที่กำไรโดนผลกระทบจาก สภาวะเศรษฐกิจ น้อยกว่ากลุ่มอื่นๆ เช่นกลุ่ม โรงพยาบาล น้ำประปา ส่งผลให้ราคาผันผวนน้อยกว่ากลุ่มอื่นๆถึงแม้ราคายังอาจเคลื่อนที่ไปในทิศทางเดียวกัน
แต่อย่างไรก็ตาม หุ้นบางตัวในกลุ่มนี้อาจโตเร็วมากๆจนมองได้ว่าเป็น Growth Stock ส่งผลให้ได้รับการ Valuation ที่สูงมากๆ จึงทำให้การผันผวนของราคามากตามไปด้วย
5. การ Valuation ในปัจจุบัน
อันนี้จะเป็นเรื่องที่สังเกตค่อนข้างยากนะครับ ไม่ว่าหุ้นจะดีและขึ้นแรงขนาดไหน ก็ต้องมีวันที่ย่อบ้าง ในทางกลับกัน ไม่ว่าหุ้นจะแย่ขนาดไหนก็ต้องมีวันที่เด้งบ้าง อันนี้ออกจะขัดจากข้อ 3 ที่ผมพูด คือ ยกตัวอย่าง ผมเคยสังเกต หุ้นบางตัวที่ดีมากๆ และราคาก็วิ่งเร็วมากๆ เช่น Trailing PE ไปที่ 60 ซึ่งแสดงถึงราคาปัจจุบันที่แพงอย่างชัดเจน ต่อมาพอ SET ปรับฐาน มันร่วงแรงกว่า SET อีก ถึงแม้ว่าผลสุดท้ายมันก็สร้างฐานใหม่และขึ้นต่อไป จะเห็นว่าในระยะสั้น มันก็วิ่งได้แย่กว่า SET ทั้งๆที่เป็นของดีครับ
สรุป
เท่าที่ผมสังเกต ตามความเห็นผม
– ในระยะ 2-3 วันผมคงสรุปอะไรไม่ได้เลย (ความแปรแรวนมันเยอะไป)
– ในระยะสั้น โดยทั่วไป ถ้าไม่ได้เกิดกรณีสุดโต่ง อย่างเช่น ไม่มีใครสนใจ (สภาพคล่องต่ำมากๆ) หรือ กำไรระเบิดมหาศาลจนหยุดไม่ได้ หุ้นมันก็มักจะไปทางเดียวกันกับ ดัชนี และอารมณ์ตลาด
– ในระยะที่ยาวขึ้น มันจะไปตาม performance ของตัวเอง
– ในระยะยาวแล้ว พฤติกรรมราคา จะเปลี่ยนไปตามคุณลักษณะของหุ้นนั้นๆ ว่ามีลักษณะพิเศษอย่างไร ตามที่ได้กล่าวไว้ข้างต้นครับ
อันที่จริงยังมีประเด็นน่าสนใจอื่นๆอีกมากที่ผมยังไม่ได้พูดถึง อย่างเช่น หุ้นที่พึ่งพิงการส่งออกมากๆ หรือ การร่วง/ขึ้น ของ SET ที่เกิดจากการร่วง/ขึ้น ของ Sector ใด Sector หนึ่ง อย่างเฉพาะเจาะจง หลายๆเรื่องมันดูค่อนข้างยาก เลยไม่สามารถสรุปได้ครับ
สุดท้ายนี้ ผมจะแชร์บางส่วนของผลการ Test แบบไม่เป็นทางการ โดยประยุกต์กับ Technical นะครับ
การ Test ช่วงเวลากับทิศทางของกลุ่มอุตสาหกรรมหุ้นโดยใช้ ZIGZAG
แนวคิด : โดยผมแบ่งช่วงเวลาของ SET ที่ขึ้นลง ตั้งแต่ปี 2004 ออกเป็น 22 ช่วงโดยใช้ Indicator ZIGZAG นะครับ (ตามภาพด้านล่างจาก efinance ครับ)

ดูคำอธิบายของ ZIGZAG Indicator ได้จาก
http://www.cwayinvestment.com/2012/10/zigzag.html
โดยวิธีการแบ่ง ผมจะใช้ Indicator ZIGZAG โดยตั้งค่า Deviation ไว้ที่ 15% โดยใช้ efinance
คือผมใช้อันนี้ เพราะมันดู SET Index เวลาขึ้นลงชัดดี โดย ค่า 15% น่าจะไม่พลาดการ Correction ใหญ่ๆ หรือวิกฤตเศรษฐกิจใดใด
โจทย์หลัก : ใน 22 ช่วงเวลาที่ SET ขึ้นลงนี้ (แบ่งโดย ZIGZAG) หุ้นแต่ละตัว ขึ้นหรือลง ตาม SET ในเชิงทิศทางอย่างไรบ้าง
แหล่งข้อมูล : ผมใช้ข้อมูลราคา EOD ที่มาจาก
http://siamchart.com/
แล้วสร้าง Database ขึ้นมาเอง โดยข้อมูลยังมีข้อผิดพลาดบ้าง และข้อยกเว้นหลายจุดอยู่
อันนี้ต้องแจ้งไว้ก่อนว่าเป็น Database ที่ ไม่ได้มีความเที่ยงตรงสูงนะครับ แต่พอดูเป็นแนวได้
ข้อจำกัด : ใช้หุ้นใน SET ที่ test ได้ 12 ช่วงเวลาขึ้นไป จะได้หุ้นทั้งหมด 358 ตัว / ตั้งแต่ปี 2004
ตัวอย่าง : หุ้น A มีข้อมูล 20 ช่วง / เคลื่อนไปทิศทางเดียวกับ SET 16 ช่วง (คือวัดแบบ ถ้าจบช่วงเวลา แล้วผลตอบแทนมีเครื่องหมายเดียวกับ SET ก็คือไปทางเดียวเช่น เช่น SET +5% และ หุ้น A +1% ก้ถือว่าผ่าน) แปลว่าหุ้น A ได้คะแนน 80%
ผลลัพธ์
Mean = 86%
Median = 86 %
Percentile 75 = 91%
เมื่อแบ่งประเภทกลุ่มอุตสาหกรรมหุ้นตาม tradingview เลือก 15 อันดับแรกที่เคลื่อนไหวตาม SET มากที่สุด และมี sample ตั้งแต่ 5 ขึ้นไป จะได้ว่า
Regional Banks : average = 94%/ count = 9
Electric Utilities : average =93%/ count = 5
Oil Refining/Marketing : average = 92%/ count = 6
Real Estate Development : average = 91%/ count = 36
จะเห็นได้ว่าอย่างน้อยการทดสอบตัวนี้ก็มีหุ้นแบงค์และอสังหาโผล่ออกมาครับ
จบแล้วจ้า
Created by : GornNutagorn
ช่องทางอื่นๆของ GornNutagorn
Facebook : https://www.facebook.com/GornNutagorn/
Youtube : www.youtube.com/c/GornNutagornChannel
Sponsored by :
#####################################

สนับสนุนโดย : www.grocerlock.com (คลิกเพื่อเข้าเว็บ)
ซุปเปอร์มาร์เก็ตออนไลน์ ขายสินค้าอุปโภคบริโภคทั่วไป
ขายปลีก-ส่ง / ต่อรองได้ / ส่งทั่วประเทศ
FB อินบ้อกได้ที่ : https://www.facebook.com/grocerlock (คลิกเพื่อส่งข้อความทางอินบ็อกซ์)
ซื้อผ่านไลน์ได้ที่ Line ID : @grocerlock (คลิกเพื่อเพิ่มเพื่อน)