สวัสดีครับ
งานตัวนี้ของผมมีชื่อเต็มๆว่า
“สำรวจพฤติกรรมและทัศนคติการซื้อสินค้าออนไลน์โดยทั่วไป และ สินค้าอุปโภคบริโภคออนไลน์ ของผู้อยู่อาศัยตามคอนโดมีเนียมระดับกลางขึ้นไปตามแนวรถไฟฟ้าสุขุมวิท”
งานนี้ผมได้ทำเป็นการส่วนตัวไว้ตั้งแต่ต้นปี 2014 วันนี้นำมาเผยแพร่แบบเกือบๆเต็มๆเผื่อเป็นไอเดียให้ท่านผู้อ่านเห็นว่าในอดีต พฤติกรรมซื้อของออนไลน์เป็นอย่างไร รวมถึงการซื้อสินค้าอุปโภคบริโภค ซึ่งข้อมูลตรงนี้เมื่อก่อนหาค่อนข้างยาก เมื่อเปรียบเทียบกับตอนนี้ (ขณะที่เขียนอยู่นี้อยู่ใน APR 2018)
งานนี้ผมไม่ได้มีการทำสรุป (Executive Summary) เพราะเป็นงานที่ไม่ต้องการข้อสรุป แต่เป็นงานที่ผมนำเนื้อหาทั้งหมดไปใช้งาน โดยงานวิจัยนี้ ดำเนินงานโดยตั้งอยู่บนพื้นฐานของการทำ Market Research แบบที่เน้นการนำไปใช้งานจริง ภายใต้ Limited Butget
บทความนี้จะค่อนข้างยาว เพราะเป็นรายงานข้อมูลการวิจัยจริงๆ โดยผมจะแบ่งเป็น 2 ภาคนะครับ
สารบัญ
ภาคที่ 1 หัวข้อ 1-3
ภาคที่ 2 หัวข้อ 4-6
- Research Overview (บทนำ)
- Offline Shoppers’ Behavior (พฤติกรรมของผู้ที่ไม่ได้ซื้อสินค้าออนไลน์)
- สาเหตุที่ไม่ซื้อสินค้าทางอินเตอร์เน็ต
- ความสนใจที่จะซื้อสินค้าออนไลน์ในอนาคต
- All Online Shoppers’ Behavior (พฤติกรรมของผู้ที่ซื้อสินค้าออนไลน์ทั้งหมด)
- ลักษณะทั่วไปในการซื้อสินค้าสินค้าออนไลน์
- เหตุผลที่ซื้อสินค้าทางอินเตอร์เน็ต
- ประเภทสินค้าที่ซื้อทางอินเตอร์เน็ต / แรงผลักดันในการซื้อ / สินค้าที่ซื้อบ่อยที่สุด
- ช่องทางในการเลือกซื้อสินค้าออนไลน์
- Online Non-Grocery Shoppers (พฤติกรรมของผู้ที่ซื้อสินค้าออนไลน์แต่ไม่ได้ซื้อสินค้าอุปโภคบริโภคออนไลน์)
- สาเหตุที่ไม่ซื้อสินค้า Grocery ทางอินเตอร์เน็ต
- ความสนใจที่จะซื้อสินค้า Grocery ออนไลน์ในอนาคต
- Online Grocery Shoppers (พฤติกรรมของผู้ที่ซื้อสินค้าออนไลน์รวมทั้งซื้อสินค้าอุปโภคบริโภคออนไลน์)
- ลักษณะทั่วไปในการซื้อสินค้า Grocery ออนไลน์
- เหตุผลที่ซื้อสินค้า Grocery ทางอินเตอร์เน็ต
- ช่องทางในการเลือกซื้อสินค้า Grocery ออนไลน์
- Marketing Influencers (อิทธิพลทางการตลาด)
- อิทธิพลของฟังก์ชันหน้าเว็บไซต์ที่มีอิทธิพลต่อการเลือกซื้อสินค้าออนไลน์ของผู้บริโภค
- Trade Off การจ่ายเงินเพิ่มขึ้น ความสะดวกสบายที่มากขึ้น ต่อสินค้า Grocery ออนไลน์
**หัวข้อที่ 4 – 6 ไปดูที่บทความถัดไป (คลิกที่นี่)**
———————
1 Research Overview (บทนำและลักษณะการทำวิจัย)
Research Objective (วัตถุประสงค์การทำวิจัย)
- ต้องการเข้าใจพฤติกรรมในการซื้อสินค้าออนไลน์หรือสินค้าของกินของใช้ที่ขายในซุปเปอร์มาเก็ต (Grocery) ที่ขายออนไลน์ของผู้บริโภคที่เป็นคนที่อยู่ตามคอนโดระดับกลางขึ้นไป
- ต้องการเข้าใจความคิดเห็นของผู้บริโภคที่เป็นคนที่อยู่ตามคอนโดระดับกลางขึ้นไป เกี่ยวกับข้อดีข้อเสียของการซื้อหรือไม่คิดที่จะซื้อ Online Grocery ในปัจจุบัน
- ต้องการรู้ว่าจะทำอย่างไรที่จะทำให้ผู้บริโภคที่เป็นคนที่อยู่ตามคอนโดระดับกลางขึ้นไป ที่ไม่ได้ใช้บริการซื้อ สินค้าของกินของใช้ที่ขายในซุปเปอร์มาเก็ต (Grocery) ที่ขายออนไลน์เปลี่ยนใจมาลองซื้อให้ได้
Methodology and Sample Criteria
Methodology(วิธีการ)
- Questionnaire : Face to Face / Street Intercept
- ลงไปสำรวจตามแนวรถไฟฟ้า สุขุมวิท 5 – 10 จุด เน้นที่จุดอ่อนนุช
Sample Criteria(ลักษณะผู้ให้สัมภาษณ์)
- ผู้บริโภคที่อยู่คอนโดราคา 2,000,000 บาทขึ้นไปและเป็นผู้จับจ่ายใช้สอยเอง อายุ18+
- Quota : ตามตารางด้านล่าง
2 Offline Shoppers’ Behavior (พฤติกรรมของผู้ที่ไม่ได้ซื้อสินค้าออนไลน์)
สาเหตุที่ไม่ซื้อสินค้าทางอินเตอร์เน็ต
ประเด็นสำคัญที่สุดคือ Physical Perception หรือความต้องการสัมผัสสินค้าจริง โดยเฉพาะกลัวสินค้าไม่มีคุณภาพหรือไม่ตรงกับที่คาดหวังไว้ และยังสามารถแบ่งได้ดังนี้
- ความสำคัญสูง : การได้เห็นและสัมผัสสินค้าจริง รวมถึงการได้เดินดูสินค้า และบริการหลังการขาย
- ความสำคัญปานกลาง : ความไม่ไว้วางใจในหลายๆเรื่อง เช่น ความปลอดภัย, คุณภาพสินค้าและ เวลา รวมถึงความไม่คุ้นเคย
- ความสำคัญต่ำ : สิ่งที่คาดเดาไม่ได้ เช่น การวางแผนล่วงหน้า และ Availability ทั้ง ของร้านค้าและสินค้า
ความสนใจที่จะซื้อสินค้าออนไลน์ในอนาคต
ภาพรวม
Offline Shoppers ยังไม่ค่อยสนใจที่จะซื้อสินค้าออนไลน์ในอนาคต มีคนที่สนใจเพียง 35% อย่างไรก็ตาม ในรายละเอียด กลุ่มเพศหญิง / กลุ่มอายุ 25-35 / กลุ่มมีลูกแล้ว มีแนวโน้มที่จะสนใจซื้อของออนไลน์มากกว่ากลุ่มอื่น
ภาพ 2.3
ความเป็นไปได้ในอนาคตในการซื้อสินค้าออนไลน์
เมื่อดูโดยรวมแล้ว สินค้าที่ Offline Shoppers น่าจะซื้อออนไลน์มากที่สุด คือ เสื้อผ้ารองเท้า, Skincare , อุปกรณ์ IT , หนังสือจริง รองลงมาคือ Ticket , Healthcare , Media อย่างไรก็ตาม เมื่อแยกตามกลุ่มที่สนใจและไม่สนใจที่จะซื้อในอนาคตสามารถสรุปได้ดังนี้
- กลุ่มไม่สนใจ (65%) สินค้าที่น่าจะซื้อมากที่สุดจะเป็น เสื้อผ้ารองเท้า , Skincare รองลงมายังสนใจจะซื้อ Media , สินค้า IT ค่อนข้างเยอะ นอกจากนี้
- กลุ่มผู้ชายหรือกลุ่มคนอายุ 18-24 อาจสนใจหนังเพลงเกมส์กว่ากลุ่มอื่นๆ
- กลุ่มสนใจ (35%) เช่นเดียวกับกลุ่มไม่สนใจสินค้าที่น่าจะซื้อมากที่สุดจะเป็น เสื้อผ้ารองเท้า , Skincare รองลงมายังสนใจจะซื้อ หนังสือจริง , Ticket ค่อนข้างเยอะ นอกจากนี้
- กลุ่มผู้ชาย / กลุ่มคนอายุ 25-35 , คนไม่มีลูก มีความสนใจเสื้อผ้าและรองเท้าเกือบทุกคน อาจแสดงให้เห็นว่ามี ตลาดเสื้อผ้าและรองเท้าโดยทั่วไปยังไครอบคลุมความต้องการของคนกลุ่มนี้
ภาพ 2.4
ภาพ 2.5
ความเป็นไปได้ในอนาคตในการซื้อสินค้า Grocery ออนไลน์
92% ของ Offline Shoppers เลือกที่จะไม่ซื้อสินค้า Grocery Online ในอนาคต โดยมีประเด็นสำคัญคือเรื่องชอบเลือกสินค้าเอง รองลงมาคือเรื่องสินค้าไม่มีคุณภาพและสามารถเดินหาซื้อได้ทั่วไป ในส่วนของคนที่เลือกซื้อ 8% ไม่สามารถหาข้อสรุปหลักได้
ภาพ 2.6
3 All Online Shoppers’ Behavior (พฤติกรรมของผู้ที่ซื้อสินค้าออนไลน์ทั้งหมด)
ลักษณะทั่วไปในการซื้อสินค้าสินค้าออนไลน์
***หลังจากนี้จะใช้คำว่า NGR Shoppers (คนที่ไม่ซื้อสินค้าซุปเปอร์มารเ์เก็ตออนไลน์) และ GR Shoppers (คนที่ถือว่าเคยซื้อสินค้าซุปเปอร์มารเ์เก็ตออนไลน์)… ความหมายโดยละเอียดให้กลับไปดูที่ หัวข้อใหญ่ที่ 1 เรื่อง Sample Criteria(ลักษณะผู้ให้สัมภาษณ์)***
- ความถี่ในการซื้อสินค้าออนไลน์ : ชัดเจนว่าคนที่เป็น Grocery Online มีความถี่ในการซื้อมากกว่า General Online มาก โดยคนที่ซื้อเดือนละ 1 ครั้งขึ้นไปสำหรับ
- Online Non Grocery Shoppers (NGR Shoppers) = 30%
- Online Grocery Shoppers (GR Shoppers) = 75%
ภาพ 3.1
- เวลาในการซื้อสินค้าออนไลน์ : ไม่ต่างกันทั้ง 2 Shoppers คือ
- เวลา 00 – 23.00 ซื้อมากที่สุด
- วันเสาร์ซื้อมากที่สุด รองลงมาคือศุกร์และอาทิตย์
ภาพ 3.2
ภาพ 3.3
- อุปกรณ์ที่ใช้ซื้อสินค้าออนไลน์ : พฤติกรรมการใช้เครื่องมือยังคง PC เป็นหลัก และจะเห็นได้ว่า GR Shoppers ใช้เครื่องมือหลากหลายอย่างมากกว่าและ Weight ไปที่อุปกรณ์ที่ใหญ่ เมื่อเทียบกับ NGR Shoppers อาจแสดงถึงความต้องการรายละเอียดในการเลือกซื้อสินค้าที่มากกว่า แต่น่าสังเกตว่า อัตราการใช้บ่อยที่สุดของ GR Shoppers ในด้านมือถือสูงกว่าถึงแม้จะมีคนใช้น้อยกว่า
ภาพ 3.4
- วิธีการชำระเงินค่าสินค้าที่ซื้อออนไลน์ : พฤติกรรมการชำระเงินยังคงเป็น 3 วิธีหลัก โดยบัตรเครดิตใช้มากที่สุด แต่ สำหรับ GR Shoppers การโอนเงินมีความนิยมน้อยกว่ามากเมื่อเทียบกับคนที่ NGR Shoppers
ภาพ 3.5
เหตุผลที่ซื้อสินค้าทางอินเตอร์เน็ต
เมื่อดูโดยรวมแล้ว GR Shoppers มักจะให้คะแนนในหลายๆข้อโดยเฉลี่ยมากกว่า NGR Shoppers ซึ่งอาจหมายความว่า GR Shoppers มี Lifestyle ที่ชื่นชอบการซื้อของออนไลน์ที่มากกว่าอีกกลุ่ม อย่างไรก็ตาม ทั้ง 2 กลุ่ม ให้ความสำคัญสูงกับเรื่องตัวสินค้าโดยเฉพาะความหลากหลายและความสะดวกเหมือนกัน ส่วนสิ่งที่มีความสำคัญต่ำคือเรื่องที่มีผลกระทบโดยอ้อมเช่น การวางแผนหรือคิดงบประมาณ และเมื่อแบ่งตามกลุ่มแล้ว พบประเด็นที่น่าสนใจดังนี้
- NGR Shoppers ให้ความสำคัญกับการเสาะหาสินค้าที่ทั่วไปไม่มีและเรื่องราคา มากกว่าปัจจัยอื่นๆ นอกจากนี้
- คนที่มีลูกแล้ว ให้ความสำคัญกับราคามากกว่ากลุ่มอื่น
- คนที่ซื้อสินค้าออนไลน์มากกว่า 1 ครั้งต่อเดือน ให้ความสำคัญกับเรื่องกลัวเจอบริการที่ไม่ดี , การกะงบประมาณ และ การเปรียบเทียบราคาสินค้า มากกว่ากลุ่มอื่นอย่างชัดเจน
- GR Shoppers ให้ความสำคัญกับความสะดวกและประหยัดเวลามากกว่าปัจจัยอื่นๆ นอกจากนี้สิ่งที่เห็นได้ชัดว่าให้ความสำคัญมากกว่า NGR Shoppers คือ กลัวเจอการบริการลูกค้าที่ไม่ดีและความง่ายในการหาโปรโมชั่น นอกจากนี้
- สิ่งที่คนซื้อบ่อยมากๆคิดเหมือนกับกลุ่ม NGR คือ ให้ความสำคัญกับการเปรียบเทียบสินค้ามากๆ
ภาพ 3.6
ภาพ 3.7
ประเภทสินค้าที่ซื้อทางอินเตอร์เน็ต / แรงผลักดันในการซื้อ
ประเภทสินค้าที่เคยซื้อ
เช่นเดียวกับ Offline Shoppers เสื้อผ้ารองเท้า, IT, Skin Care , Health Care ได้รับความสนใจมากที่สุดหรือเคยซื้อทั้ง 2 กลุ่ม (NGR /GR Shoppers) และความซื้อบ่อยที่สุดก็เรียงตามลำดับเช่นกัน
แรงกระตุ้นในการซื้อ
- Online NGR Shoppers
- สินค้ากลุ่ม Health Care คนกลุ่มนี้ซื้อโดยไม่ต้องได้รับการกระตุ้นเลยในขณะที่ คนที่ซื้อเสื้อผ้ารองเท้า, IT, Skin Care ยังต้องได้รับการกระตุ้นเป็นส่วนสำคัญ (45% / 40% / 25% ของทั้งหมด ตามลำดับ) แต่ทั้งนี้ทุกคนต่างคิดที่จะซื้อเองอยู่แล้ว
- สิ่งที่น่าสนใจคือหนังสือเล่มจริง จัดเป็นสินค้าที่คนซื้อบ้าง ทั้งนี้แม้ว่าจะต้องได้รับ Promotion บ้าง แต่คนก็ตั้งใจซื้อเองและซื้อบ่อยที่สุดด้วย
- Online GR Shoppers
- นอกจากหนังสือที่มีคนซื้อไม่มากและไม่บ่อยแล้ว ประเด็นอื่นๆเหมือนกับ Online NGR Shoppers
- ในกรณีสินค้า Grocery นับว่ามีการพึ่งพิง Promotion ที่ไม่มากเท่าไรนัก (20% ที่โดนกระตุ้นและติดจะซื้อเองด้วย มีโดนกระตุ้นเพียวเพียง 2%)
- กลุ่มคนที่มีลูกแล้ว สัดส่วนในการซื้อเครื่องประดับโดยคิดซื้อเองมีจำนวนสูงถึง 62% แต่อาจเป็นเพราะกลุ่มตัวอย่างที่เป็น
ภาพ 3.8
ภาพ 3.9
ช่องทางในการเลือกซื้อสินค้าออนไลน์
รูปแบบหลักของช่องทางในการเข้าชม
Online Shoppers ทั้ง 2 กลุ่มหมือนกันคือเข้าชมสินค้าทางเว็บไซต์มากที่สุด (≈ 90% ) / Facebook (≈ 50%) / Web Ads (10 – 20%)ภาพ 3.10
ร้านค้าออนไลน์ที่ผู้บริโภคคิดขึ้นมาเอง เมื่อคิดถึงการซื้อสินค้าออนไลน์ (Top of Mind)
เรียงตามลำดับดังนี้
- Facebook 60% ทั้ง 2 กลุ่ม
- We Love Shopping เกือบ 30% ทั้ง 2 กลุ่ม
- Lazada – Non GR Shoppers(29%) คิดถึงมากกว่า GR Shoppers (17%)
- Central ≈ 12%ทั้ง 2 กลุ่ม
ภาพ 3.11
ร้านค้าออนไลน์ที่ผู้บริโภคเข้าไปชมเมื่อคิดจะซื้อสินค้าออนไลน์ / เคยซื้อ / ซื้อบ่อยที่สุด ( Exc. Supermarket Websites)
- NGR Shoppers
- ยอดนิยม : Facebook / We Love Shopping / Lazada เรียงตามลำดับจากมากไปน้อย นิยมในทุกๆด้าน (คิดจะซื้อสินค้าออนไลน์ / เคยซื้อ / ซื้อบ่อยที่สุด) รวมทั้งเป็นคนทุกกลุ่ม และ Facebook จะต่อนข้างกระจายถึงคนทุกกลุ่มที่สุด
- นิยมปานกลาง : เทพช๊อป / ตลาด /Twitter / Central พวกนี้พอๆกัน แต่ เทพช๊อปคนซื้อบ่อยสุดมากกว่า และ Central ไม่มีใครซื้อบ่อยสุดเลย แสดงถึงคนเข้าไปใช้แล้วไม่มีใครชอบ
- ไม่นิยม : Zalora / Seven / IG ….etc. โดยเฉพาะ IG คนอายุ 35 ขึ้นไปไม่มีคนเคยซื้อเลย
- GR Shoppers (ถ้าไม่รวม Supermarket Website)
- ยอดนิยม : เหมือน NGR Shoppers
- นิยมปานกลาง : ตลาด /Zalora /Central (ไม่มีใครซื้อบ่อยสุดเช่นกันแม้อัตราเข้าดูจะสูงมาก แสดงถึงคนเข้าไปใช้แล้วไม่มีใครชอบ)
- ไม่นิยม :เทพช๊อป / Twitter/ Seven / IG ….etc
ภาพ 3.12
เหตุผลในการซื้อสินค้าทางเว็บไซต์ใดเว็บไซต์หนึ่งบ่อยที่สุด
- โดยรวมแล้ว ความหลากหลายของสินค้ายังมาเป็นที่ 1 ทั้ง 2 กลุ่ม
- NGR shoppers จะเสาะหาความง่ายในการใช้งานมากกว่า (น่าจะแสดงถึงการใช้งานง่ายของเว็บไซต์)
- GR Shoppers จะคิดเรื่อง ความสะดวกสบายและ ราคาสินค้ามากกว่า
- Brand Loyalty และ Reliability สำคัญรองลงมา
ภาพ 3.13
ใน chapter 1 จะจบเพียงเท่านี้นะครับ
ผมคาดว่าปัจจุบัน น่าจะมีสิ่งที่เปลี่ยนแปลงไปเยอะมากนับแต่ตอนที่ผมทำ Research ฉบับนี้
แม้ว่าผมจะไม่ค่อยได้ติดตามงานสำรวจต่างๆที่เกี่ยวกับการช้อปปิ้่งออนไลน์แล้ว แต่ผมเชื่อว่ามีอย่างน้อย 3-4 เรื่องที่น่าจะเปลี่ยนไปอย่างมากคือ
- ความถี่ในการซื้อสินค้าออนไลน์
- ช่องทางการชำระเงินในการซื้อสินค้าออนไลน์
- เวลาในการซื้อสินค้าออนไลน์
- อุปกรณ์ในการซื้อสินค้าออนไลน์
- อันดับร้านค้ายอดนิยม
เรื่องที่ผมว่า ในปัจจุบันน่าจะหาข้อมูลได้ค่อนข้างง่าย เพราะความสนใจด้านออนไลน์ต่างกับ 4 ปีที่แล้วเยอะมาก ยัไงท่านผู้อ่านลองหาอ่านดูกันนะครับ
ข้อมูลต่างๆจะดูค่อนข้างกระจัดกระจายและผมจะไม่ได้เขียนสรุปไว้
อย่างที่บอกไว้ตอนแรกว่า รายงานฉบับนี้ทำขึ้นเพื่อใช้จริงโดยทุนส่วนตัว ดังนั้น ข้อมูลทุกคอลัมน์ ทุกข้อที่ได้มา สามารถนำไปใช้ประโยชน์ได้หมด ไม่ได้จำเป็นต้องทำสรุปไปเพื่ออะไรอะครับ
ไปต่อกันที่ chapter 2 ตรงนี้เลยครับ
Created by : GornNutagorn
ช่องทางอื่นๆของ GornNutagorn
Facebook : https://www.facebook.com/GornNutagorn/
Youtube : www.youtube.com/c/GornNutagornChannel
Sponsored by : ซุปเปอร์มาร์เก็ตออนไลน์